นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)
บริษัท เฟิสต์ไลน์ ยูนิตี้ จำกัด

ฉบับวันที่ 1 พฤษภาคม 2565


1. บทนำ

        บริษัท เฟิสต์ไลน์ ยูนิตี้ จำกัด (ต่อไปในนโยบายนี้เรียกว่า “เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้” หรือ “เรา”) ตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลอื่นอันเกี่ยวกับท่าน (รวมเรียกว่า “ข้อมูล”) เพื่อให้ท่านสามารถเชื่อมั่นได้ว่าเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้มีความโปร่งใสและความรับผิดชอบในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลของท่านตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) รวมถึงกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (“นโยบาย”) นี้จึงได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อชี้แจงแก่ท่านถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผย (รวมเรียกว่า “ประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งดำเนินการโดย เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้รวมถึงเจ้าหน้าที่และบุคคลที่เกี่ยวข้องผู้ดำเนินการแทนหรือในนามของเรา โดยมีเนื้อหาสาระดังต่อไปนี้

2. ขอบเขตการบังคับใช้นโยบาย

        นโยบายนี้ใช้บังคับกับข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลซึ่งมีความสัมพันธ์กับเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ ในปัจจุบันและที่อาจมีในอนาคต ซึ่งถูกประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดย เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ เจ้าหน้าที่ พนักงานตามสัญญา หน่วยธุรกิจหรือหน่วยงานรูปแบบอื่นที่ดำเนินการโดยเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้และรวมถึงคู่สัญญาหรือบุคคลภายนอกที่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของ เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ (“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล”) ภายใต้ผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ ระบบ แอปพลิเคชัน เอกสาร หรือบริการในรูปแบบอื่นที่ควบคุมดูแลโดยเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ (รวมเรียกว่า “บริการ”)

        บุคคลมีความสัมพันธ์กับเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ ตามความในวรรคแรก รวมถึง
        1) ลูกค้าบุคคลธรรมดา
        2) เจ้าหน้าที่หรือผู้ปฏิบัติงาน ลูกจ้าง
        3) คู่ค้าและผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา
        4) กรรมการ ผู้รับมอบอำนาจ ผู้แทน ตัวแทน ผู้ถือหุ้น ลูกจ้าง หรือบุคคลอื่นที่มีความสัมพันธ์ในรูปแบบเดียวกันของนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้
        5) ผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์หรือบริการของเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้
        6) ผู้เข้าชมหรือใช้งานเว็บไซท์ www.firstlineunity.com รวมทั้งระบบ แอปพลิเคชัน อุปกรณ์ หรือช่องทางการสื่อสารอื่นซึ่งควบคุมดูแลโดย เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้
        7) บุคคลอื่นที่เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ผู้สมัครงาน ผู้ค้ำประกัน เป็นต้น
        ข้อ 1) ถึง 6) เรียกรวมกันว่า “ท่าน

        นอกจากนโยบายฉบับนี้แล้ว เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้อาจกำหนดให้มีคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (“ประกาศ”) สำหรับผลิตภัณฑ์หรือบริการของเรา เพื่อชี้แจงให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นผู้ใช้บริการได้ทราบถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกประมวลผล วัตถุประสงค์และเหตุผลอันชอบด้วยกฎหมายในการประมวลผล ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลพึงมีในผลิตภัณฑ์หรือบริการนั้นเป็นการเฉพาะเจาะจง
        ทั้งนี้ ในกรณีที่มีความขัดแย้งกันในสาระสำคัญระหว่างความในประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและนโยบายนี้ ให้ถือตามความในประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของบริการนั้น

3. คำนิยาม

  • เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ หมายถึง บริษัท เฟิสต์ไลน์ ยูนิตี้ จำกัด
  • ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดา ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
  • ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว หมายถึงข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ถูกบัญญัติไว้ในมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ซึ่งได้แก่ ข้อมูลเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
  • การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง การดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคล เช่น เก็บรวบรวม บันทึก สำเนา จัดระเบียบ เก็บรักษา ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ใช้ กู้คืน เปิดเผย ส่งต่อ เผยแพร่ โอน รวม ลบ ทำลาย เป็นต้น
  • เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย
  • ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
  • ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

4. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้เก็บรวบรวม

        เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้เก็บรวบรวมหรือได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่าง ๆ จากแหล่งข้อมูลดังต่อไปนี้
        1) ข้อมูลส่วนบุคคลที่เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้เก็บรวบรวมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรงในช่องทางให้บริการต่าง ๆ เช่น ขั้นตอนการสมัคร ลงทะเบียน สมัครงาน ลงนามในสัญญา เอกสาร ทำแบบสำรวจหรือใช้งานผลิตภัณฑ์ บริการ หรือช่องทางให้บริการอื่นที่ควบคุมดูแลโดยเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ หรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลติดต่อสื่อสารกับเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ ณ ที่ทำการหรือผ่านช่องทางติดต่ออื่นที่ควบคุมดูแลโดยเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ เป็นต้น
        2) ข้อมูลที่เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้เก็บรวบรวมจากการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าใช้งานเว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์หรือบริการอื่น ๆ ตามสัญญาหรือตามพันธกิจ เช่น การติดตามพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์หรือบริการของ เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ ด้วยการใช้คุกกี้ (Cookies) หรือจากซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น
        3) ข้อมูลส่วนบุคคลที่เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้เก็บรวบรวมจากแหล่งอื่นนอกจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยที่แหล่งข้อมูลดังกล่าวมีอำนาจหน้าที่ มีเหตุผลที่ชอบด้วยกฎหมายหรือได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแล้วในการเปิดเผยข้อมูลแก่เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ 
        นอกจากนี้ ยังหมายความรวมถึงกรณีที่ท่านเป็นผู้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกแก่เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ ดังนี้ ท่านมีหน้าที่รับผิดชอบในการแจ้งรายละเอียดตามนโยบายนี้หรือประกาศของผลิตภัณฑ์หรือบริการ ตามแต่กรณี ให้บุคคลดังกล่าวทราบ ตลอดจนขอความยินยอมจากบุคคลนั้นหากเป็นกรณีที่ต้องได้รับความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลแก่เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้
        ทั้งนี้ ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลที่มีความจำเป็นในการให้บริการของเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ อาจเป็นผลให้เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ไม่สามารถให้บริการนั้นแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ทั้งหมดหรือบางส่วน

5. ฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

        เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้พิจารณากำหนดฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามความเหมาะสมและตามบริบทของการให้บริการ ทั้งนี้ ฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ใช้ ประกอบด้วย

ฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลรายละเอียด
เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายเพื่อให้เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้สามารถปฏิบัติตามที่กฎหมายที่ควบคุมเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ เช่น – การเก็บรวบรวมข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 – กฎหมายว่าด้วยภาษีอากร รวมถึง การดำเนินการตามคำสั่งศาล เป็นต้น
เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของ เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ และของบุคคลอื่น ซึ่งประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น เพื่อการรักษาความปลอดภัยอาคารสถานที่ของ เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ หรือการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อกิจการภายในของ เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ เป็นต้น
เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาเพื่อให้ เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา หรือดำเนินการอันเป็นความจำเป็นต่อการเข้าทำสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญากับ เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ เช่น การจ้างงาน เช่าซื้อของ การทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือหรือสัญญาในรูปแบบอื่น เป็นต้น
ความยินยอมของท่านเพื่อการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่ เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากท่าน โดยได้มีการแจ้งวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลก่อนการขอความยินยอมแล้ว เช่น การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวด้วยวัตถุประสงค์ที่ไม่เป็นไปตามข้อยกเว้นมาตรา 24 หรือ 26 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือการนำเสนอ ประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์และบริการของคู่สัญญาหรือพันธมิตรทางธุรกิจแก่ท่าน เป็นต้น

        ในกรณีที่เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา การปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายหรือเพื่อความจำเป็นในการเข้าทำสัญญา หากท่านปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลหรือ คัดค้านการดำเนินการประมวลผลตามวัตถุประสงค์ของกิจกรรม อาจมีผลทำให้เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ไม่สามารถดำเนินการหรือให้บริการตามที่ท่านร้องขอได้ทั้งหมดหรือบางส่วน

6. ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้เก็บรวบรวม

        เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้อาจเก็บรวบรวมหรือได้มาซึ่งข้อมูลดังต่อไปนี้ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับบริการที่ท่านใช้หรือบริบทความสัมพันธ์ที่ท่านมีกับเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ รวมถึงข้อพิจารณาอื่นที่มีผลกับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล โดยประเภทของข้อมูลที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้เป็นเพียงกรอบการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ เป็นการทั่วไป ทั้งนี้ เฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ท่านใช้งานหรือมีความสัมพันธ์ด้วยเท่านั้นที่จะมีผลบังคับใช้

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลรายละเอียดและตัวอย่าง
ข้อมูลเฉพาะตัวบุคคลข้อมูลระบุชื่อเรียกของท่านหรือข้อมูลจากเอกสารราชการที่ระบุข้อมูลเฉพาะตัวของท่าน เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ นามสกุล ชื่อกลาง ชื่อเล่น ลายมือชื่อ เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน สัญชาติ เลขที่ใบขับขี่ เลขที่หนังสือเดินทาง ข้อมูลทะเบียนบ้าน หมายเลขใบประกอบการ หมายเลขใบอนุญาตการประกอบวิชาชีพ (สำหรับแต่ละอาชีพ) หมายเลขประจำตัวผู้ประกันตน หมายเลขประกันสังคม เป็นต้น
ข้อมูลเกี่ยวกับคุณลักษณะของบุคคลข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับตัวท่าน เช่น วันเดือนปีเกิด เพศ อายุ สถานภาพการสมรส สถานภาพการเกณฑ์ทหาร รูปถ่าย ภาษาพูด ข้อมูลพฤติกรรม ความชื่นชอบ ข้อมูลการเป็นบุคคลล้มละลาย ข้อมูลการเป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ เป็นต้น
ข้อมูลสำหรับการติดต่อข้อมูลเพื่อการติดต่อท่าน เช่น เบอร์โทรศัพท์บ้าน หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ หมายเลขโทรสาร อีเมล ที่อยู่ทางไปรษณีย์บ้าน ชื่อผู้ใช้งานในสังคมออนไลน์ (Line ID, Messenger) แผนที่ตั้งของที่พัก เป็นต้น
ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานและการศึกษารายละเอียดการจ้างงาน รวมถึงประวัติการทำงานและประวัติการศึกษา เช่น ประเภทการจ้างงาน อาชีพ ยศ ตำแหน่ง หน้าที่ ความเชี่ยวชาญ สถานภาพใบอนุญาตทำงาน ข้อมูลบุคคลอ้างอิง หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี ประวัติการดำรงตำแหน่ง ประวัติการทำงาน ข้อมูลเงินเดือน วันเริ่มงาน วันออกจากงาน ผลการประเมิน สวัสดิการและสิทธิประโยชน์ พัสดุในครอบครองของผู้ปฏิบัติงาน ผลงาน หมายเลขบัญชีธนาคาร สถาบันการศึกษา วุฒิการศึกษา ผลการศึกษา วันที่สำเร็จการศึกษา เป็นต้น
ข้อมูลเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัยรายละเอียดเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัยผู้ปฏิบัติงาน เช่น ผู้รับประกันภัย ผู้เอาประกันภัย ผู้รับประโยชน์ หมายเลขกรมธรรม์ ประเภทกรมธรรม์ วงเงินคุ้มครอง ข้อมูลเกี่ยวกับการเคลม เป็นต้น
ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการของ เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้รายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของ เฟิสต์ไลน์ เช่น ชื่อบัญชีผู้ใช้งาน รหัสผ่าน ข้อมูลการจราจรทางคอมพิวเตอร์ ข้อมูลระบุพิกัด ภาพถ่าย วีดีโอ บันทึกเสียง ข้อมูลพฤติกรรมการใช้งาน (เว็บไซต์ที่อยู่ในความดูแลของ เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ เช่น www.firstlineunity.com หรือแอปพลิเคชันต่าง ๆ) ประวัติการสืบค้น คุกกี้หรือเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกัน หมายเลขอุปกรณ์ (Device ID) ประเภทอุปกรณ์ รายละเอียดการเชื่อมต่อ ข้อมูล Browser ภาษาที่ใช้งาน ระบบปฏิบัติการที่ใช้งาน เป็นต้น
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนของท่าน เช่น ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลชีวภาพ (ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า) ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ เป็นต้น

7. คุกกี้

        เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้เก็บรวบรวมและใช้คุกกี้รวมถึงเทคโนโลยีอื่นในลักษณะเดียวกันในเว็บไซต์ที่อยู่ภายใต้ความดูแลของเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ เช่น www.firstlineunity.com หรือบนอุปกรณ์ของท่านตามแต่บริการที่ท่านใช้งาน ทั้งนี้เพื่อการดำเนินการด้านความปลอดภัยในการให้บริการของเราและเพื่อให้ท่านซึ่งเป็นผู้ใช้งานได้รับความสะดวกและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานบริการของเราและข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปเพื่อปรับปรุงเว็บไซต์ของเราให้ตรงกับความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น โดยท่านสามารถตั้งค่าหรือลบการใช้งานคุกกี้ได้ด้วยตนเองจากการตั้งค่าในเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) ของท่าน

8. ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถและคนเสมือนไร้ความสามารถ

        กรณีที่เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ทราบว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมในการเก็บรวบรวม เป็นของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ เราจะไม่ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจนกว่าจะได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ หรือผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ตามแต่กรณี ทั้งนี้ เป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด
        กรณีที่เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ไม่ทราบมาก่อนว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ และมาพบในภายหลังว่าเราได้เก็บรวบรวมข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวโดยยังมิได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ หรือผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ตามแต่กรณี ดังนี้ เราจะดำเนินการลบทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนั้นโดยเร็วหากเราไม่มีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายประการอื่นนอกเหนือจากความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว

9. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

        เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์หลายประการ ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทของผลิตภัณฑ์หรือบริการหรือกิจกรรมที่ท่านใช้บริการ ตลอดจนลักษณะความสัมพันธ์ของท่านกับ เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ หรือข้อพิจารณาในแต่ละบริบทเป็นสำคัญ โดยวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้เป็นเพียงกรอบการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของ เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ เป็นการทั่วไป ทั้งนี้ เฉพาะวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ท่านใช้งานหรือมีความสัมพันธ์ด้วยเท่านั้นที่จะมีผลบังคับใช้กับข้อมูลของท่าน

        1) เพื่อดำเนินการตามที่จำเป็นในการดำเนินประโยชน์สาธารณะที่เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ได้รับมอบหมายให้สำเร็จลุล่วง
        2) เพื่อให้บริการและบริหารจัดการบริการของ เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ ทั้งบริการภายใต้สัญญาที่มีต่อท่าน หรือตามพันธกิจของเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้
        3) เพื่อการดำเนินการทางธุรกรรมของเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้
        4) ควบคุมดูแล ใช้งาน ติดตาม ตรวจสอบและบริหารจัดการบริการเพื่ออำนวยความสะดวกและสอดคล้องกับความต้องการของท่าน
        5) เพื่อเก็บรักษาและปรับปรุงข้อมูลอันเกี่ยวกับท่าน รวมทั้งเอกสารที่มีการกล่าวอ้างถึงท่าน
        6) จัดทำบันทึกรายการการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด
        7) วิเคราะห์ข้อมูลรวมถึงแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวกับบริการของเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้
        8) เพื่อดำเนินการตามที่จำเป็นในการบริหารจัดการภายในองค์กร รวมถึงการรับสมัครงาน การสรรหากรรมการหรือผู้ดำรงตำแหน่งต่าง ๆ การประเมินคุณสมบัติ
        9) ป้องกัน ตรวจจับ หลีกเลี่ยง และตรวจสอบการฉ้อโกง การละเมิดความปลอดภัย หรือการกระทำที่ต้องห้าม หรือผิดกฎหมาย และอาจเกิดความเสียหายต่อทั้ง เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ และเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
        10) การยืนยันตัวตน พิสูจน์ตัวตนและตรวจสอบข้อมูลเมื่อท่านสมัครใช้บริการของ เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ หรือติดต่อใช้บริการ หรือใช้สิทธิตามกฎหมาย
        11) ปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์และบริการให้ทันสมัย
        12) การประเมินและบริหารจัดการความเสี่ยง
        13) ส่งการแจ้งเตือน การยืนยันการทำคำสั่ง ติดต่อสื่อสารและแจ้งข่าวสารไปยังท่าน
        14) เพื่อจัดทำและส่งมอบเอกสารหรือข้อมูลที่มีความเกี่ยวข้องและจำเป็น
        15) ยืนยันตัวตน ป้องกันการสแปม หรือการกระทำที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือผิดกฎหมาย
        16) ตรวจสอบว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าถึงและใช้บริการของเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ อย่างไร ทั้งในภาพรวมและรายบุคคล และเพื่อวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการค้นคว้า และการวิเคราะห์
        17) ดำเนินการตามที่จำเป็นเพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ ซึ่งเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้มีต่อหน่วยงานที่มีอำนาจควบคุม หน่วยงานด้านภาษี การบังคับใช้กฎหมาย หรือภาระผูกพันตามกฎหมายของเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้
        18) ดำเนินการตามที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ หรือของบุคคลอื่น หรือของนิติบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับการการดำเนินการของเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้
        19) ป้องกัน หรือหยุดยั้งอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคลซึ่งรวมถึงการเฝ้าระวังโรคระบาด
        20) เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย ประกาศ คำสั่งที่มีผลบังคับใช้ หรือการดำเนินการเกี่ยวกับคดีความ การดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลตามหมายศาล รวมถึงการใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลของท่าน

10. ประเภทบุคคลที่ เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

        ภายใต้วัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ในข้อ 9 ข้างต้น เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลดังต่อไปนี้ ทั้งนี้ ประเภทของบุคคลผู้รับข้อมูลที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้เป็นเพียงกรอบการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของ เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ เป็นการทั่วไป เฉพาะบุคคลผู้รับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ท่านใช้งานหรือมีความสัมพันธ์ด้วยเท่านั้นที่จะมีผลบังคับใช้

ประเภทบุคคลผู้รับข้อมูลรายละเอียด
หน่วยงานของรัฐหรือผู้มีอำนาจที่เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ ต้องเปิดเผยข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินการตามกฎหมายหรือวัตถุประสงค์สำคัญอื่นหน่วยงานผู้บังคับใช้กฎหมาย หรือมีอำนาจควบคุมกำกับดูแลหรือมีวัตถุประสงค์อื่นที่มีความสำคัญ เช่น คณะรัฐมนตรี รัฐมนตรีผู้รักษาการ กรมการปกครอง กรมสรรพากร สำนักงานตำรวจ ศาล สำนักงานอัยการ กรมควบคุมโรค กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานปลัดสำนักนายก กรมการกงสุล กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เป็นต้น
คณะกรรมการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามกฎหมายของเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้อาจเปิดเผยข้อมูลของท่านแก่บุคคลผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการในคณะต่างที่เกี่ยวข้อง
คู่สัญญาซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับสวัสดิการของผู้ปฏิบัติงานของเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้บุคคลภายนอกที่เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ จัดซื้อจัดจ้างให้ดำเนินการเกี่ยวกับสวัสดิการ เช่น บริษัทประกันภัย โรงพยาบาล ผู้จัดทำ Payroll ธนาคาร ผู้ให้บริการโทรศัพท์ เป็นต้น
พันธมิตรทางธุรกิจเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้อาจเปิดเผยข้อมูลของท่านแก่บุคคลที่ร่วมงานกับเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้เพื่อประโยชน์ในการให้บริการแก่ท่าน เช่น หน่วยงานผู้ให้บริการที่ท่านติดต่อผ่านบริการของเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ ผู้ให้บริการด้านการตลาด สื่อโฆษณา สถาบันการเงิน ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม ผู้ให้บริการโทรคมนาคม เป็นต้น
ผู้ให้บริการเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้อาจมอบหมายให้บุคคลอื่นเป็นผู้ให้บริการแทน หรือสนับสนุนการดำเนินการของเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ เช่น ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บข้อมูล (เช่น คลาวด์ โกดังเอกสาร) ผู้พัฒนาระบบ ซอฟต์แวร์ แอปพลิเคชัน เว็บไซต์ ผู้ให้บริการจัดส่งเอกสาร ผู้ให้บริการด้านการชำระเงิน ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ผู้ให้บริการโทรศัพท์ ผู้ให้บริการด้าน Digital ID ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ ผู้ให้บริการด้านการบริหารความเสี่ยง ที่ปรึกษาภายนอก ผู้ให้บริการขนส่ง เป็นต้น
ผู้รับข้อมูลประเภทอื่นเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ อาจเปิดเผยข้อมูลของท่านให้แก่บุคคลผู้รับข้อมูลประเภทอื่น เช่น ผู้ติดต่อ เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ สมาชิกในครอบครัว มูลนิธิที่ไม่แสวงหากำไร วัด โรงพยาบาล สถานศึกษา หรือหน่วยงานอื่น ๆ เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อการดำเนินการเกี่ยวกับบริการของ เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ การฝึกอบรม การรับรางวัล การร่วมทำบุญ บริจาค เป็นต้น
การเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้อาจเปิดเผยข้อมูลของท่านต่อสาธารณะในกรณีที่จำเป็น เช่น การประกาศยกย่องพนักงานที่มีผลงานเยี่ยมยอด ประกาศรางวัลจากการร่วมกิจกรรม เป็นต้น

11. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ

        ในบางกรณี เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้อาจจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการให้บริการแก่ท่าน เช่น เพื่อส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปยังระบบคลาวด์ (Cloud) ที่มีแพลตฟอร์มหรือเครื่องแม่ข่าย (Server) อยู่ต่างประเทศ (เช่น ประเทศสิงคโปร์ หรือสหรัฐอเมริกา เป็นต้น) เพื่อสนับสนุนระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ตั้งอยู่นอกประเทศไทย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับบริการของเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ที่ท่านใช้งานหรือมีส่วนเกี่ยวข้องเป็นรายกิจกรรม
        อย่างไรก็ตามในขณะที่จัดทำนโยบายฉบับนี้ คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลยังมิได้มีประกาศกำหนดรายการประเทศปลายทางที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ ดังนี้ เมื่อเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้มีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังประเทศปลายทาง เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้จะดำเนินการเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ส่งหรือโอนไปมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเพียงพอตามมาตรฐานสากล หรือดำเนินการตามเงื่อนไขเพื่อให้สามารถส่งหรือโอนข้อมูลนั้นได้ตามกฎหมาย ได้แก่

        1) เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่กำหนดให้ เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ ต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
        2) ได้แจ้งให้ท่านทราบและได้รับความยินยอมจากท่านในกรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอ ทั้งนี้ตามประกาศรายชื่อประเทศที่คณะกรรมการคุ้มครองส่วนบุคคลประกาศกำหนด
        3) เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญากับ เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ หรือเป็นการทำตามคำขอของท่านก่อนการเข้าทำสัญญานั้น
        4) เป็นการกระทำตามสัญญาของ เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ กับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เพื่อประโยชน์ของท่าน
        5) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือของบุคคลอื่น เมื่อท่านไม่สามารถให้ความยินยอมในขณะนั้นได้
        6) เป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ

12. ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

        เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาเท่าที่ข้อมูลนั้นยังมีความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเท่านั้น ตามรายละเอียดที่ได้กำหนดไว้ในนโยบาย ประกาศหรือตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลาและข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสิ้นความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวแล้ว เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ จะทำการลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวตนได้ต่อไป ตามรูปแบบและมาตรฐานการลบทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่คณะกรรมการหรือกฎหมายจะได้ประกาศกำหนดหรือตามมาตรฐานสากล

ระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลของผู้ใช้บริการ
     กรณีที่ท่านเป็นลูกค้าของเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ที่มีความสัมพันธ์กับเราในรูปแบบการเช่าซื้อ  เราจะเก็บข้อมูลของท่านและผู้ที่เกี่ยวข้องในสัญญาเช่าซื้อรวมถึงเอกสารที่ใช้ระบุตัวตนประกอบการทำสัญญาเช่าซื้อ  จะถูกจัดเก็บเป็นระยะเวลาจนกว่าการปฏิบัติตามข้อกำหนดในสัญญาเช่าซื้อนั้นสิ้นสุด หลังจากนั้นเราจะเลือกเก็บข้อมูลบางส่วนในรูปแบบอิเล็คทรอนิกส์ ได้แก่ ชื่อ–นามสกุล, ที่อยู่, หมายเลขโทรศัพท์, ประเภทสินค้า, รุ่นสินค้า, หมายเลขเครื่อง, ราคาสินค้า, จำนวนสินค้า และ/หรือ กำหนดการชำระเงิน เพื่อความจำเป็นในการรับประกันสินค้าและการให้บริการหลังการขายเป็นระยะเวลา 5 ปีหลังจากที่ท่านได้รับสินค้า
    กรณีที่ท่านเป็นลูกค้าของเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ที่มีความสัมพันธ์กับเราในรูปแบบการซื้อสด และ/หรือ การซื้อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เราจะเก็บข้อมูลของท่านได้แก่ ชื่อ–นามสกุล, ที่อยู่, หมายเลขโทรศัพท์, ประเภทสินค้า, รุ่นสินค้า, หมายเลขเครื่อง, ราคาสินค้า, จำนวนสินค้า และ/หรือ กำหนดการชำระเงิน เพื่อความจำเป็นในการรับประกันสินค้าและการให้บริการหลังการขายเป็นระยะเวลา 5 ปีหลังจากที่ท่านได้รับสินค้า
     ข้อมูลผู้ใช้บริการด้านอื่นเราจะเก็บข้อมูลของท่านเป็นระยะเวลาที่เรายังคงจำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์

ระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของคู่ค้า
     ข้อมูลคู่ค้าที่เกี่ยวเนื่องกับการดำเนินกิจการของเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ ได้แก่ ชื่อบริษัท/ชื่อกิจการ, ชื่อผู้ประสานงาน, หมายเลขโทรศัพท์, ข้อมูลการติดต่ออื่น ๆ และ/หรือ ตั้งสำนักงาน จะถูกจัดเก็บในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์  โดยเราจะเก็บข้อมูลของคู่ค้าตลอดระยะเวลาที่เรายังคงจำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์

ระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลของผู้สมัครงาน และ/หรือ ผู้สมัครฝึกงาน
     ข้อมูลของผู้สมัครงาน และ/หรือ ผู้สมัครฝึกงาน อันประกอบด้วยข้อมูล ตำแหน่ง, ชื่อ-นามสกุล, ชื่อเล่น, คำอธิบาย, เพศ, สัญชาติ, อายุ / วัน เดือน ปี เกิด, หมายเลขโทรศัพท์, สถานะทางการทหาร, ข้อมูลการติดต่อฉุกเฉิน, ประวัติการศึกษา, ความสามารถด้านภาษา, ประวัติการทำงาน, ประวัติการอบรมณ์/สัมมนา, ความสามารถพิเศษ และ/หรือ งานอดิเรก/กีฬา ซึ่งท่านได้มอบให้กับเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้  เราจะเก็บข้อมูลของท่านในรูปแบบเอกสารเป็นเวลาไม่เกิน 90 วัน นับตั้งแต่ได้รับข้อมูลการสมัครจากท่าน  เว้นแต่กรณีที่ท่านได้รับเลือกให้ปฏิบัติงานหรือฝึกงานกับเรา  เราจะทำการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจนกว่าการปฏิบัติงานกับเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้จะสิ้นสุด  โดยเราจะทำลายข้อมูลของท่านภายในระยะเวลาไม่เกิน 90 วันหลังจากสิ้นสุดการปฏิบัติงานร่วมกับเรา

ระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลของพนักงาน
     ข้อมูลของพนักงานหรือผู้ปฏิบัติงานของเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ จะมีการจัดเก็บข้อมูล ตำแหน่ง, ชื่อ-นามสกุล, วัน เดือน ปี เกิด, หมายเลขโทรศัพท์, ข้อมูลการติดต่อฉุกเฉิน, เลขบัญชีธนาคาร, ค่าจ้าง, ข้อมูลการปฏิบัติงาน ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์  และจัดเก็บข้อมูลสำเนาบัตรประชาชน ในรูปแบบเอกสาร  โดยข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานหรือผู้ปฏิบัติงานของเราจะถูกจัดเก็บเป็นระยะเวลาตลอดการดำเนินงานกับเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้  โดยเราจะทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนี้ในระยะเวลาไม่เกิน 90 วันหลังจากสิ้นสุดการเป็นพนักงานของเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้

ระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ
     ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเราจะเก็บข้อมูลของท่านเป็นระยะเวลาที่เรายังคงจำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากข้อมูลส่วนบุคคลนั้นตามวัตถุประสงค์

อย่างไรก็ดี ในกรณีที่มีข้อพิพาท การใช้สิทธิหรือคดีความอันเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ขอสงวนสิทธิในการเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปจนกว่าข้อพิพาทนั้นจะได้มีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุด

13. การให้บริการโดยบุคคลที่สามหรือผู้ให้บริการช่วง

        เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้อาจมีการมอบหมายหรือจัดซื้อจัดจ้างบุคคลที่สาม (ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล) ให้ทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ ซึ่งบุคคลที่สามดังกล่าวอาจเสนอบริการในลักษณะต่าง ๆ เช่น การเป็นผู้ดูแล (Hosting) รับงานบริการช่วง (Outsourcing) หรือเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ (Cloud computing service/provider) หรือเป็นงานในลักษณะการจ้างทำของในรูปแบบอื่น

        การมอบหมายให้บุคคลที่สามทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้จะจัดให้มีข้อตกลงระบุสิทธิและหน้าที่ของเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและของบุคคลที่เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้มอบหมายในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงกำหนดรายละเอียดประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้มอบหมายให้ประมวลผล รวมถึงวัตถุประสงค์ ขอบเขตในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและข้อตกลงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามขอบเขตที่ระบุในข้อตกลงและตามคำสั่งของเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ เท่านั้นโดยไม่สามารถประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นได้

        ในกรณีที่ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีการมอบหมายผู้ให้บริการช่วง (ผู้ประมวลผลช่วง) เพื่อทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้ เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้จะกำกับให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจัดให้มีเอกสารข้อตกลงระหว่างผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้ประมวลผลช่วง ในรูปแบบและมาตรฐานที่ไม่ต่ำกว่าข้อตกลงระหว่าง เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ กับผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

14. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

        เรามีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสม ทั้งในเชิงเทคนิคและการบริหารจัดการ เพื่อป้องกันมิให้ข้อมูลสูญหาย หรือมีการเข้าถึง ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและแนวปฏิบัติด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (Information Security Policy) ของเรา
        นอกจากนี้ เราได้กำหนดให้มีนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลขึ้นโดยประกาศให้ทราบกันโดยทั่วทั้งองค์กร พร้อมแนวทางปฏิบัติเพื่อให้เกิดความมั่นคงปลอดภัยในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยธำรงไว้ซึ่งความเป็นความลับ (Confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (Integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (Availability) ของข้อมูลส่วนบุคคล โดยเราได้จัดให้มีการทบทวนนโยบายดังกล่าวรวมถึงประกาศนี้ในระยะเวลาตามที่เหมาะสม

15. การเชื่อมต่อเว็บไซท์หรือบริการภายนอก

    บริการของเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ อาจมีการเชื่อมต่อไปยังเว็บไซท์หรือบริการของบุคคลที่สาม ซึ่งเว็บไซท์หรือบริการดังกล่าวอาจมีการประกาศนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีเนื้อหาสาระแตกต่างจากนโยบายนี้ เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ขอแนะนำให้ท่านศึกษานโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์หรือบริการนั้น ๆ เพื่อทราบในรายละเอียดก่อนการเข้าใช้งาน ทั้งนี้ เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ไม่มีความเกี่ยวข้องและไม่มีอำนาจควบคุมถึงมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซท์หรือบริการดังกล่าวและไม่สามารถรับผิดชอบต่อเนื้อหา นโยบาย ความเสียหาย หรือการกระทำอันเกิดจากเว็บไซท์หรือบริการของบุคคลที่สาม

16. เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

      เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบ กำกับและให้คำแนะนำในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการประสานงานและให้ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้สอดคล้องตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

17. สิทธิของท่านตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

      พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในความควบคุมของท่านได้มากขึ้น โดยท่านสามารถใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562  ทั้งนี้ ท่านสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ของท่านได้ตามช่องทางที่ เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ กำหนดในข้อ 8. หรือผ่านเว็บไซต์ของ เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ (www.firstlineunity.com/privacy) โดยจะสามารถเริ่มใช้สิทธิได้ เมื่อบทบัญญัติในส่วนที่เกี่ยวกับสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

        17.1 สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
        สิทธิในการเข้าถึง รับสำเนาและขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราเก็บรวบรวมอยู่ เว้นแต่กรณีที่เรามีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น

        17.2 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง
        สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน เพื่อให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

        17.3 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม
      ในกรณีที่ เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ ขอความยินยอมจากท่าน ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับ เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ ได้ เว้นแต่การเพิกถอนความยินยอมจะมีข้อจำกัดโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน
        ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย

        17.4 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
      ท่านมีสิทธิขอให้ เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ ระงับการใช้ข้อมูลของท่านได้ตามที่กฎหมายกำหนด โดยสิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีหนึ่งกรณีใดดังต่อไปนี้
        17.4.1 เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่เราทำการตรวจสอบตามคำร้องขอของท่านให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน
        17.4.2 ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
        17.4.3 เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์เราได้แจ้งไว้ในการเก็บรวบรวม แต่ท่านประสงค์ให้เราเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปเพื่อประกอบการใช้สิทธิตามกฎหมายของท่าน
        17.4.4 เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่เรากำลังพิสูจน์ให้ท่านเห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือตรวจสอบความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์สาธารณะ อันเนื่องมาจากการที่ท่านได้ใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

        17.5 สิทธิในการขอลบข้อมูลส่วนบุคคล
        ท่านมีสิทธิขอให้เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ ลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายกำหนด อย่างไรก็ตาม เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้อาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งอาจมีบางระบบที่ไม่สามารถลบข้อมูลได้ ในกรณีเช่นนั้น เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้จะจัดให้มีการทำลายหรือทำให้ข้อมูลดังกล่าวกลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้

        17.6 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
        สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่กรณีที่เรามีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่น เราสามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะตามภารกิจของเรา)

        17.7 สิทธิในการขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล
        ท่านมีสิทธิขอให้เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ได้ตามที่กฎหมายกำหนด

        17.8 สิทธิในการร้องเรียน
        ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หากเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าวได้

18. โทษของการไม่ปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

        การไม่ปฏิบัติตามนโยบายอาจมีผลเป็นความผิดและถูกลงโทษทางวินัยตามกฎเกณฑ์ของเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ (สำหรับเจ้าหน้าที่หรือผู้ปฏิบัติงานของเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้) หรือตามข้อตกลงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (สำหรับผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล) ทั้งนี้ ตามแต่กรณีและความสัมพันธ์ที่ท่านมีต่อเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้และอาจได้รับโทษตามที่กำหนดโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมทั้งกฎหมายลำดับรอง กฎ ระเบียบ คำสั่งที่เกี่ยวข้อง

19. การร้องเรียนต่อหน่วยงานผู้มีอำนาจกำกับดูแล

        ในกรณีที่ท่านพบว่าเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้มิได้ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิร้องเรียนไปยังคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือหน่วยงานที่มีอำนาจกำกับดูแลที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือตามกฎหมาย ทั้งนี้ ก่อนการร้องเรียนดังกล่าว เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ขอให้ท่านโปรดติดต่อมายังเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ เพื่อให้เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้มีโอกาสได้รับทราบข้อเท็จจริงและได้ชี้แจงในประเด็นต่าง ๆ รวมถึงจัดการแก้ไขข้อกังวลของท่านก่อนในโอกาสแรก

20. การปรับปรุงแก้ไขนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

        ในการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงประกาศนี้ เราอาจพิจารณาแก้ไขเปลี่ยนแปลงตามที่เห็นสมควร และจะทำการแจ้งให้ท่านทราบผ่านช่องทางเว็บไซต์ของเฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ (www.firstlineunity.com) และ/หรือแจ้งให้ท่านทราบผ่านทางอีเมล โดยมีวันที่ของเวอร์ชั่นล่าสุดกำกับอยู่ตอนบน อย่างไรก็ดี เราขอแนะนำให้ท่านโปรดตรวจสอบเพื่อรับทราบประกาศฉบับใหม่อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะก่อนที่ท่านจ้ะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่เรา
        โดยในการเข้าใช้งานผลิตภัณฑ์หรือบริการภายใต้กิจกรรมการประมวลผลนี้ของท่าน ถือเป็นการรับทราบตามข้อตกลงในประกาศนี้ ทั้งนี้ โปรดหยุดการใช้งานหากท่านไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงในประกาศฉบับนี้ หากท่านยังคงใช้งานต่อไปภายหลังจากที่ประกาศนี้มีการแก้ไขและนำขึ้นประกาศในช่องทางข้างต้นแล้ว จะถือว่าท่านได้รับทราบการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแล้ว

21. การติดต่อสอบถามหรือใช้สิทธิ

        ในกรณีที่มีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน การใช้สิทธิของท่าน หรือมีข้อร้องเรียนใด ๆ ท่านสามารถติดต่อ เฟิสต์ไลน์ยูนิตี้ ได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้

        1) ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller)
        ชื่อ: บริษัท เฟิสต์ไลน์ ยูนิตี้ จำกัด
        สถานที่ติดต่อ: 189 ซอยรังสิต-ปทุมธานี2 ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 12130
        หมายเลขโทรศัพท์: 02-567-1057

        2) เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO)
        สถานที่ติดต่อ: 189 ซอยรังสิต-ปทุมธานี2 ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 12130
        หมายเลขโทรศัพท์: 02-567-1057
        อีเมล: dpo@firstlineunity.com

Main Menu